การปลูกผม 3 เทคนิค สำหรับคนหัวล้านเถิก รับรองผมขึ้นชัวร์

Table of Contents

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor

ปัญหาที่ทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นกังวลมากที่สุด คือ “ปัญหาศีรษะล้านเถิก” เพราะมันสามารถบั่นทอนความมั่นใจของคนเราได้มากทีเดียว และยังทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริงอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมถึงสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าวและวิธีการแก้ปัญหามาฝากกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

Table of Contents

ฮอร์โมนเพศชาย

เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายของผู้ชายจะมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายที่มีชื่อว่าเทสโทสเตอโรน (testosterone) เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยฮอร์โมนนี้เมื่อเดินทางตามกระแสเลือดไปถึงรากผมจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นฮอร์โมนเพศชายอีกตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า dihydrotestosterone (DHT) โดยเอนไซม์ 5-alpha reductase จะไปรบกวนวงจรชีวิตของเส้นผมให้ผิดปกติไปจนทำให้เส้นผมค่อย ๆ มีขนาดเล็กลงและหายไปจากหนังศีรษะในที่สุด โดยเฉพาะในเส้นผมของผู้ที่มีความไวต่อการทำงานของฮอร์โมนตัวนี้มากกว่าปกติ

พันธุกรรม

ลักษณะทางพันธุกรรมนี้สามารถถ่ายทอดได้ทั้งจากทางพ่อและแม่ ซึ่งนั่นหมายความว่าหากพ่อหรือแม่มีกรรมพันธุ์ศีรษะล้าน ลูกก็มีโอกาสที่จะมีปัญหาในแบบเดียวกันนี้ได้ด้วยเช่นกัน แต่ลักษณะที่จะแสดงออกนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ภายนอกด้วย

อายุ

อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องกล่าวถึง เพราะเมื่ออายุมากขึ้นจากการวิจัยพบว่า เส้นผมจะเล็กลงและความยาวของเส้นผมก็จะลดลงด้วยเช่นกัน รากผมและรากขนปริมาณลดลง จึงเป็นไปได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้นจะทำให้ผมดูบางลง อาจเกิดขึ้นจากการที่เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะน้อยลง

การอักเสบของหนังศีรษะ

การอักเสบน้อย ๆ ของหนังศีรษะจากสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นที่รากผมนั้นพบว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะผมบางศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์
(2.ภาพประกอบบทความ : ทำเป็นภาพสามช่อง โดยช่องที่1 เป็นหัวของ ฮอร์โมนเพศชาย ช่องที่2 พันธุกรรม ช่องที่ 3 อายุ ซึ่งแต่ละช่องก็ต้องมีเคสคนไข้ประกอบด้วย)

“ปลูกผมถาวร” จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ทำให้ผู้ชายหลายท่านที่ไม่อยากแก้ปัญหาด้วยการกินยาเพียงอย่างเดียว จึงเริ่มหันมาปลูกผมถาวรเพื่อการรักษา และในบางท่านก็ถือโอกาสปรับบุคลิกภาพด้วยการปลูกผมถาวรที่สามารถออกแบบแนวเส้นผมและสร้างกรอบหน้าใหม่ให้ใบหน้ามีสัดส่วนที่เหมาะสมที่จะช่วยกระชากวัยให้กลับมาดูหนุ่มขึ้นได้อีกครั้ง โดยการปลูกผมถาวรเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านเถิกให้กลับมามีเส้นผมเพิ่มความมั่นใจได้อีกครั้ง  ในปัจจุบันมีวิธีการปลูกผม 2 วิธีคือ การปลูกผมย้ายรากแบบผ่าตัด หรือ Follicular Unit Tranหplantation (FUT) และการปลูกผมย้ายรากแบบไม่ผ่าตัด หรือ Follicular Unit Excision (FUE) ซึ่งวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายก็คือ การปลูกผมถาวรแบบ FUE นั่นเอง วิธีการนี้จะใช้การเจาะเอารากผมที่แข็งแรงที่สุด จากบริเวณด้านหลังศีรษะที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT มาทำการปลูกผม ดังนั้นวิธีการนี้จึงไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาวเหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT

แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จากเทคนิค FUE แบบดังเดิม มีการพัฒนามาเป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายราก เทคนิค DHI ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ไขปัญหาศีรษะล้านเถิกได้ดียิ่งขึ้น จากผลลัพธ์ที่ละเอียดกว่า แน่นกว่า แลดูเป็นธรรมชาติ และมีระยะพักฟื้นที่สั้นลง จากการใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะทางที่เรียกว่า DHI Implanter ในการปักและปลูกพร้อมกัน ซึ่งเครื่องมือนี้จะสามารถควบคุมทิศทาง มุม และความลึกในการปลูกทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ เห็นแนวผมของตัวเองได้ทันทีหลังการปลูก ดังนั้นวันนี้จะมาแนะนำ 3 เทคนิค สำหรับคนหัวล้านเถิก รับรองผมขึ้นชัวร์

ปลูกผมถาวรแบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค FUE Hair Transplant

หรือเรียกกันอย่างสั้น ๆ ว่า “FUE” วิธีการนี้ถูกคิดค้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 เป็นการนำรากผมทั้งกอ (1 กอประกอบไปด้วยเส้นผม 1-4 เส้น) จากบริเวณด้านหลังศีรษะ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลของฮอร์โมน DHT น้อยกว่าบริเวณอื่น (DHT คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน) มาปลูกใหม่ยังบริเวณที่ต้องการ ซึ่งวิธีการปลูกผมโดยเทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว เหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT ทำให้มีระยะพักฟื้นที่สั้นกว่า สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น และไม่ต้องมีแผลเป็นยาวบริเวณด้านหลังศีรษะที่ต้องคอยไว้ผมยาวมาปกปิดไว้
สามารถอ่าน การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค FUE Hair Transplant เพิ่มเติมได้ที่ https://longhairtransplant.com/fue-hair-transplants/

(5.ภาพประกอบบทความ : คนไข้เคสรีวิว FUE ก่อนปลูกหลังปลูกกี่สัปดาห์กี่เดือนก็ว่าไป)

ปลูกผมถาวร แบบย้ายราก ด้วยเทคนิค DHI Hair Transplant

DHI (Direct Hair Implantation) เป็นการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE ประเภทหนึ่ง ซึ่งก็คือ มีขั้นตอนการเจาะนำกราฟต์ที่บริเวณท้ายทอย (Donor Area) ออกมาเช่นเดียวกัน แต่ในขั้นตอนการปลูก หากเป็นเทคนิค FUE แบบดั้งเดิมนั้น แพทย์จะต้องใช้เข็มเจาะลงไปบนหนังศีรษะก่อนเพื่อให้เกิดรู แล้วจึงใช้ forceps นำกราฟต์ผมมาใส่ลงไปในรอยเจาะนั้น แต่หากเป็นเทคนิค DHI สามารถปัก และปลูกผมทีละเส้นได้ภายในครั้งเดียว ด้วยเครื่องมือเฉพาะที่ชื่อว่า DHI Implanter

สามารถอ่าน การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค DHI Hair Transplant ได้ที่
https://longhairtransplant.com/dhi-hair-transplantation/
(7.ภาพประกอบบทความ : คนไข้เคสรีวิว DHI ก่อนปลูกหลังปลูกกี่สัปดาห์กี่เดือนก็ว่าไป)

ปลูกผมถาวร แบบย้ายราก ด้วยเทคนิค Long Hair DHI Transplant

เป็นการปลูกผมโดยใช้เทคนิค DHI (Direct Hair Implanter) ที่ไม่มีการโกนผมสั้นบริเวณศีรษะด้านหลัง (Donor Area) ทำการนำผมที่ยาว ๆ ไปปลูกบริเวณที่ต้องการได้เลย ทำให้ผมที่ปลูกใหม่จะมีลักษณะยาวเท่ากับผมปัจจุบันที่มีบนศีรษะดูกลืนไปกับผมเดิมที่มีอยู่ สำหรับวิธีนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ปัญหาศีรษะล้านเถิก แต่ไม่ต้องการโกนผมให้สั้นหรือต้องการปกปิดแผลที่เกิดจากการปลูกผมจากสายตาบุคคลรอบข้าง
สามารถอ่าน การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค Long Hair DHI Transplant ได้ที่
https://longhairtransplant.com/long-hair-dhi-transplant/
(9.ภาพประกอบบทความ : คนไข้เคสรีวิว LH ก่อนปลูกหลังปลูกกี่สัปดาห์กี่เดือนก็ว่าไป)

ปลูกผม ที่ BEQ Clinic กับ นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล

การันตีด้วยเคสรีวิวมากมาย

จากประสบการณ์ที่เห็นปัญหามาเยอะ ยิ่งมีความมั่นใจและสามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาได้แน่นอน

แพทย์มีความเข้าใจ

เรื่องของความเป็นธรรมชาติ ในการออกแบบแนวเส้นผม และการปักกราฟต์ให้ไปในทิศทางเดียวกันกับเส้นผม เหมาะกับเพศ วัย และเชื้อชาติ ลักษณะใบหน้า รูปทรงของศีรษะ

เทคโนโลยีทันสมัย

อุปกรณ์เจาะ-ปักกราฟต์ DHI Implanter นวัตกรรมเครื่องมือปลูกผมที่ทำให้งานปลูกผมแม่นยำและประหยัดเวลาไปมากกว่า 30%

ใส่ใจทุกรายละเอียด

ไม่ว่าจะเป็นการเจาะ– ปักบริเวณที่ปลูกผมต้องทำด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียดขั้นตอนเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ปลอดภัย 100%

ตั้งแต่การประเมินเตรียมความพร้อมก่อนการปลูกโดยทีมแพทย์ อุปกรณ์ที่มีการฆ่าเชื้อตามมาตรฐานทางการแพทย์ การดูแลระหว่างและหลังการปลูกโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ จึงมั่นใจได้ว่าการปลูกผมของคุณจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ดูแลฟรี ตลอด 1 ปี

ปัญหาที่ทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นกังวลมากที่สุด คือ “ปัญหาศีรษะล้านเถิก” เพราะมันสามารถบั่นทอนความมั่นใจของคนเราได้มากทีเดียว และยังทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริงอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมถึงสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าวและวิธีการแก้ปัญหามาฝากกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

Table of Contents

ฮอร์โมนเพศชาย

เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายของผู้ชายจะมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายที่มีชื่อว่าเทสโทสเตอโรน (testosterone) เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยฮอร์โมนนี้เมื่อเดินทางตามกระแสเลือดไปถึงรากผมจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นฮอร์โมนเพศชายอีกตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า dihydrotestosterone (DHT) โดยเอนไซม์ 5-alpha reductase จะไปรบกวนวงจรชีวิตของเส้นผมให้ผิดปกติไปจนทำให้เส้นผมค่อย ๆ มีขนาดเล็กลงและหายไปจากหนังศีรษะในที่สุด โดยเฉพาะในเส้นผมของผู้ที่มีความไวต่อการทำงานของฮอร์โมนตัวนี้มากกว่าปกติ

พันธุกรรม

ลักษณะทางพันธุกรรมนี้สามารถถ่ายทอดได้ทั้งจากทางพ่อและแม่ ซึ่งนั่นหมายความว่าหากพ่อหรือแม่มีกรรมพันธุ์ศีรษะล้าน ลูกก็มีโอกาสที่จะมีปัญหาในแบบเดียวกันนี้ได้ด้วยเช่นกัน แต่ลักษณะที่จะแสดงออกนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ภายนอกด้วย

อายุ

อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องกล่าวถึง เพราะเมื่ออายุมากขึ้นจากการวิจัยพบว่า เส้นผมจะเล็กลงและความยาวของเส้นผมก็จะลดลงด้วยเช่นกัน รากผมและรากขนปริมาณลดลง จึงเป็นไปได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้นจะทำให้ผมดูบางลง อาจเกิดขึ้นจากการที่เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะน้อยลง

การอักเสบของหนังศีรษะ

การอักเสบน้อย ๆ ของหนังศีรษะจากสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นที่รากผมนั้นพบว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะผมบางศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์
(2.ภาพประกอบบทความ : ทำเป็นภาพสามช่อง โดยช่องที่1 เป็นหัวของ ฮอร์โมนเพศชาย ช่องที่2 พันธุกรรม ช่องที่ 3 อายุ ซึ่งแต่ละช่องก็ต้องมีเคสคนไข้ประกอบด้วย)

“ปลูกผมถาวร” จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ทำให้ผู้ชายหลายท่านที่ไม่อยากแก้ปัญหาด้วยการกินยาเพียงอย่างเดียว จึงเริ่มหันมาปลูกผมถาวรเพื่อการรักษา และในบางท่านก็ถือโอกาสปรับบุคลิกภาพด้วยการปลูกผมถาวรที่สามารถออกแบบแนวเส้นผมและสร้างกรอบหน้าใหม่ให้ใบหน้ามีสัดส่วนที่เหมาะสมที่จะช่วยกระชากวัยให้กลับมาดูหนุ่มขึ้นได้อีกครั้ง โดยการปลูกผมถาวรเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านเถิกให้กลับมามีเส้นผมเพิ่มความมั่นใจได้อีกครั้ง  ในปัจจุบันมีวิธีการปลูกผม 2 วิธีคือ การปลูกผมย้ายรากแบบผ่าตัด หรือ Follicular Unit Tranหplantation (FUT) และการปลูกผมย้ายรากแบบไม่ผ่าตัด หรือ Follicular Unit Excision (FUE) ซึ่งวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายก็คือ การปลูกผมถาวรแบบ FUE นั่นเอง วิธีการนี้จะใช้การเจาะเอารากผมที่แข็งแรงที่สุด จากบริเวณด้านหลังศีรษะที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT มาทำการปลูกผม ดังนั้นวิธีการนี้จึงไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาวเหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT

แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จากเทคนิค FUE แบบดังเดิม มีการพัฒนามาเป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายราก เทคนิค DHI ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ไขปัญหาศีรษะล้านเถิกได้ดียิ่งขึ้น จากผลลัพธ์ที่ละเอียดกว่า แน่นกว่า แลดูเป็นธรรมชาติ และมีระยะพักฟื้นที่สั้นลง จากการใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะทางที่เรียกว่า DHI Implanter ในการปักและปลูกพร้อมกัน ซึ่งเครื่องมือนี้จะสามารถควบคุมทิศทาง มุม และความลึกในการปลูกทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ เห็นแนวผมของตัวเองได้ทันทีหลังการปลูก ดังนั้นวันนี้จะมาแนะนำ 3 เทคนิค สำหรับคนหัวล้านเถิก รับรองผมขึ้นชัวร์

ปลูกผมถาวรแบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค FUE Hair Transplant

หรือเรียกกันอย่างสั้น ๆ ว่า “FUE” วิธีการนี้ถูกคิดค้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 เป็นการนำรากผมทั้งกอ (1 กอประกอบไปด้วยเส้นผม 1-4 เส้น) จากบริเวณด้านหลังศีรษะ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลของฮอร์โมน DHT น้อยกว่าบริเวณอื่น (DHT คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน) มาปลูกใหม่ยังบริเวณที่ต้องการ ซึ่งวิธีการปลูกผมโดยเทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว เหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT ทำให้มีระยะพักฟื้นที่สั้นกว่า สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น และไม่ต้องมีแผลเป็นยาวบริเวณด้านหลังศีรษะที่ต้องคอยไว้ผมยาวมาปกปิดไว้
สามารถอ่าน การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค FUE Hair Transplant เพิ่มเติมได้ที่ https://longhairtransplant.com/fue-hair-transplants/

(5.ภาพประกอบบทความ : คนไข้เคสรีวิว FUE ก่อนปลูกหลังปลูกกี่สัปดาห์กี่เดือนก็ว่าไป)

ปลูกผมถาวร แบบย้ายราก ด้วยเทคนิค DHI Hair Transplant

DHI (Direct Hair Implantation) เป็นการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE ประเภทหนึ่ง ซึ่งก็คือ มีขั้นตอนการเจาะนำกราฟต์ที่บริเวณท้ายทอย (Donor Area) ออกมาเช่นเดียวกัน แต่ในขั้นตอนการปลูก หากเป็นเทคนิค FUE แบบดั้งเดิมนั้น แพทย์จะต้องใช้เข็มเจาะลงไปบนหนังศีรษะก่อนเพื่อให้เกิดรู แล้วจึงใช้ forceps นำกราฟต์ผมมาใส่ลงไปในรอยเจาะนั้น แต่หากเป็นเทคนิค DHI สามารถปัก และปลูกผมทีละเส้นได้ภายในครั้งเดียว ด้วยเครื่องมือเฉพาะที่ชื่อว่า DHI Implanter

สามารถอ่าน การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค DHI Hair Transplant ได้ที่
https://longhairtransplant.com/dhi-hair-transplantation/
(7.ภาพประกอบบทความ : คนไข้เคสรีวิว DHI ก่อนปลูกหลังปลูกกี่สัปดาห์กี่เดือนก็ว่าไป)

ปลูกผมถาวร แบบย้ายราก ด้วยเทคนิค Long Hair DHI Transplant

เป็นการปลูกผมโดยใช้เทคนิค DHI (Direct Hair Implanter) ที่ไม่มีการโกนผมสั้นบริเวณศีรษะด้านหลัง (Donor Area) ทำการนำผมที่ยาว ๆ ไปปลูกบริเวณที่ต้องการได้เลย ทำให้ผมที่ปลูกใหม่จะมีลักษณะยาวเท่ากับผมปัจจุบันที่มีบนศีรษะดูกลืนไปกับผมเดิมที่มีอยู่ สำหรับวิธีนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ปัญหาศีรษะล้านเถิก แต่ไม่ต้องการโกนผมให้สั้นหรือต้องการปกปิดแผลที่เกิดจากการปลูกผมจากสายตาบุคคลรอบข้าง
สามารถอ่าน การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม ด้วยเทคนิค Long Hair DHI Transplant ได้ที่
https://longhairtransplant.com/long-hair-dhi-transplant/
(9.ภาพประกอบบทความ : คนไข้เคสรีวิว LH ก่อนปลูกหลังปลูกกี่สัปดาห์กี่เดือนก็ว่าไป)

ปลูกผม ที่ BEQ Clinic กับ นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล

การันตีด้วยเคสรีวิวมากมาย

จากประสบการณ์ที่เห็นปัญหามาเยอะ ยิ่งมีความมั่นใจและสามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาได้แน่นอน

แพทย์มีความเข้าใจ

เรื่องของความเป็นธรรมชาติ ในการออกแบบแนวเส้นผม และการปักกราฟต์ให้ไปในทิศทางเดียวกันกับเส้นผม เหมาะกับเพศ วัย และเชื้อชาติ ลักษณะใบหน้า รูปทรงของศีรษะ

เทคโนโลยีทันสมัย

อุปกรณ์เจาะ-ปักกราฟต์ DHI Implanter นวัตกรรมเครื่องมือปลูกผมที่ทำให้งานปลูกผมแม่นยำและประหยัดเวลาไปมากกว่า 30%

ใส่ใจทุกรายละเอียด

ไม่ว่าจะเป็นการเจาะ– ปักบริเวณที่ปลูกผมต้องทำด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียดขั้นตอนเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ปลอดภัย 100%

ตั้งแต่การประเมินเตรียมความพร้อมก่อนการปลูกโดยทีมแพทย์ อุปกรณ์ที่มีการฆ่าเชื้อตามมาตรฐานทางการแพทย์ การดูแลระหว่างและหลังการปลูกโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ จึงมั่นใจได้ว่าการปลูกผมของคุณจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ดูแลฟรี ตลอด 1 ปี

Facebook
Twitter
LinkedIn
Facebook
Twitter
LinkedIn
Share the Post:

Related Posts

Rejuvenation Therapy

การดูแลตัวเอง ก่อน-หลัง ปลูกผม

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะปลูกผม สิ่งแรกที่ต้องทราบเลยก็คือ ก่อนปลูกผมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การปลูกผมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด รวมไปถึงหลังปลูกผมเราต้องดูแลอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของคนไข้ให้มากที่สุด เ

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save