หยุดปัญหาผมที่ต้นเหตุ

Table of Contents

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor

แน่นอนครับว่าปัญหาเส้นผมส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenic Alopecia) ไม่ว่าจะทำให้เกิดการผมร่วง ผมบาง ไปจนถึงการทำให้เกิดปัญหาศีรษะล้าน-เถิกครับ หลาย ๆ คนก็สงสัยว่าในเมื่อเรารู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ทำไมเราไม่แก้ปัญหานี้

คำตอบก็คือ เรายังไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ 100% โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนครับ เพราะเรารู้ว่าปัญหาเกิดจากฮอร์โมน DHT ที่กลายสภาพมาจากฮอร์โมนเพศชาย Testosterone และเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ถูกผลิตขึ้นจากลูกอัณฑะ และอีกเล็กน้อยจากต่อมหมวกไต หากไม่ต้องการฮอร์โมนตัวนี้ก็ต้องทำการตัดลูกอัณฑะออกครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วคงไม่มีใครแก้ปัญหาผมด้วยการตัดลูกอัณฑะออกใช่ไหมครับ

วิธีจัดการกับผลกระทบของฮอร์โมน DHT

ดังนั้นเรามาที่ขั้นตอนต่อมาก็คือการป้องกันไม่ให้ Testosterone เปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมน DHT วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือการทานยา Finasteride ครับ ซึ่งเป็นตัวยาที่หมอแนะนำให้คนไข้ทุกท่านได้ไปทานหลังปลูกผมครับ เพื่อทำให้ผมบริเวณที่ไม่ได้ปลูกไม่ร่วงไปครับ กลไกลการทำงานของ Finasteride คือการเข้าจับกับเอนไซม์ 5-alpha reductase ทำให้ฮอร์โมน Testosterone ไม่ถูกเปลี่ยนเป็น DHT ได้ครับ เมื่อร่างกายเรามีฮอร์โมน DHT เกิดขึ้นที่เส้นผมน้อยลงทำให้มีฮอร์โมนเข้าไปทำร้ายเซลล์รากผมน้อยลงครับ

จริงอยู่ที่ไม่สามารถหยุดการเข้าทำลายรากผมได้ 100% เพราะ Finasteride ไม่สามารถจับกับ 5-alpha reductase ได้ทั้งหมดทำให้ร่างกายเรายังเหลือ DHT อยู่บ้างครับดั งนั้นสำหรับใครที่ต้องการป้องกัน 2 ชั้น สามารถทำ RECELL Plus 3X ที่มีความสามารถในการป้องกัน Transforming-growth factor β1(TGF-β1) โดยเจ้าสาร TGF-β1 เกิดขึ้นเมื่อ DHT เข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์รากผมครับ และ TGF-β1 นี้เองที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายเซลล์รากผมครับ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า RECELL Plus 3X มีความพิเศษที่มากไปกว่าการปลูกผมเพื่อรักษาอาการผมบาง แต่ยังมีความสามารถในการปกป้องเซลล์รากผมของเราอีกด้วยครับ

อาการของ Androgenic Alopecia

จริงอยู่ว่าข้างต้นเป็นวิธีการจัดการกับปัญหาศีรษะล้าน-เถิกจากพันธุกรรม (Androgenic Alopecia) แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าปัญหาของเราเกิดจากภาวะนี้ ให้เริ่มจากการสังเกตญาติพี่น้องของเราว่ามีอาการผมบาง ผมน้อย หรือว่าล้าน-เถิกหรือไม่ เพราะว่าภาวะนี้เป็นภาวะทางพันธุกรรมบนยีนเด่นครับ

นอกจากนี้อาการที่ชัดเจนของภาวะนี้ก็คือผมจะค่อย ๆ บางลง โดยผมที่ร่วงลงมาจะค่อย ๆ มีเส้นรอบวงเล็กลง โดยกระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่เดินหน้าอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ไม่ได้ร่วงทีเดียวจนสังเกตได้ชัดเจนครับ ดังนั้นสำหรับใครที่กังวลและไม่ต้องการประสบกับปัญหานี้ต้องหมั่นเช็คตัวเองครับ

หากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร?

หากเกิดบริเวณด้านหน้า แนะนำเป็นการปลูกผมแบบย้ายรากครับ เพราะเป็นการนำรากผมจากบริเวณด้านหลังที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT ย้ายมาบริเวณที่มีปัญหา การปลูกผมแบบนี้มีทั้ง FUE, DHI และ Long Hair DHI โดยจะแตกต่างกันที่ผลลัพธ์หลังการปลูกครับ

หากเกิดบริเวณตรงกลางสามารถรักษาได้ทั้งการปลูกผมย้ายรากและ การปลูกผมด้วยเซลล์รากผมเป็นการเหนี่ยวนำให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผม และทำให้ผมเดิมอวบอ้วนมากขึ้น โดยวิธีนี้เรียกว่า RECELL ซึ่งแบ่งออกเป็น RECELL Micro Hair Transplant และ RECELL Plus 3x ครับ

แน่นอนครับว่าปัญหาเส้นผมส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenic Alopecia) ไม่ว่าจะทำให้เกิดการผมร่วง ผมบาง ไปจนถึงการทำให้เกิดปัญหาศีรษะล้าน-เถิกครับ หลาย ๆ คนก็สงสัยว่าในเมื่อเรารู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ทำไมเราไม่แก้ปัญหานี้

คำตอบก็คือ เรายังไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ 100% โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนครับ เพราะเรารู้ว่าปัญหาเกิดจากฮอร์โมน DHT ที่กลายสภาพมาจากฮอร์โมนเพศชาย Testosterone และเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ถูกผลิตขึ้นจากลูกอัณฑะ และอีกเล็กน้อยจากต่อมหมวกไต หากไม่ต้องการฮอร์โมนตัวนี้ก็ต้องทำการตัดลูกอัณฑะออกครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วคงไม่มีใครแก้ปัญหาผมด้วยการตัดลูกอัณฑะออกใช่ไหมครับ

วิธีจัดการกับผลกระทบของฮอร์โมน DHT

ดังนั้นเรามาที่ขั้นตอนต่อมาก็คือการป้องกันไม่ให้ Testosterone เปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมน DHT วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือการทานยา Finasteride ครับ ซึ่งเป็นตัวยาที่หมอแนะนำให้คนไข้ทุกท่านได้ไปทานหลังปลูกผมครับ เพื่อทำให้ผมบริเวณที่ไม่ได้ปลูกไม่ร่วงไปครับ กลไกลการทำงานของ Finasteride คือการเข้าจับกับเอนไซม์ 5-alpha reductase ทำให้ฮอร์โมน Testosterone ไม่ถูกเปลี่ยนเป็น DHT ได้ครับ เมื่อร่างกายเรามีฮอร์โมน DHT เกิดขึ้นที่เส้นผมน้อยลงทำให้มีฮอร์โมนเข้าไปทำร้ายเซลล์รากผมน้อยลงครับ

จริงอยู่ที่ไม่สามารถหยุดการเข้าทำลายรากผมได้ 100% เพราะ Finasteride ไม่สามารถจับกับ 5-alpha reductase ได้ทั้งหมดทำให้ร่างกายเรายังเหลือ DHT อยู่บ้างครับดั งนั้นสำหรับใครที่ต้องการป้องกัน 2 ชั้น สามารถทำ RECELL Plus 3X ที่มีความสามารถในการป้องกัน Transforming-growth factor β1(TGF-β1) โดยเจ้าสาร TGF-β1 เกิดขึ้นเมื่อ DHT เข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์รากผมครับ และ TGF-β1 นี้เองที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายเซลล์รากผมครับ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า RECELL Plus 3X มีความพิเศษที่มากไปกว่าการปลูกผมเพื่อรักษาอาการผมบาง แต่ยังมีความสามารถในการปกป้องเซลล์รากผมของเราอีกด้วยครับ

อาการของ Androgenic Alopecia

จริงอยู่ว่าข้างต้นเป็นวิธีการจัดการกับปัญหาศีรษะล้าน-เถิกจากพันธุกรรม (Androgenic Alopecia) แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าปัญหาของเราเกิดจากภาวะนี้ ให้เริ่มจากการสังเกตญาติพี่น้องของเราว่ามีอาการผมบาง ผมน้อย หรือว่าล้าน-เถิกหรือไม่ เพราะว่าภาวะนี้เป็นภาวะทางพันธุกรรมบนยีนเด่นครับ

นอกจากนี้อาการที่ชัดเจนของภาวะนี้ก็คือผมจะค่อย ๆ บางลง โดยผมที่ร่วงลงมาจะค่อย ๆ มีเส้นรอบวงเล็กลง โดยกระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่เดินหน้าอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ไม่ได้ร่วงทีเดียวจนสังเกตได้ชัดเจนครับ ดังนั้นสำหรับใครที่กังวลและไม่ต้องการประสบกับปัญหานี้ต้องหมั่นเช็คตัวเองครับ

หากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร?

หากเกิดบริเวณด้านหน้า แนะนำเป็นการปลูกผมแบบย้ายรากครับ เพราะเป็นการนำรากผมจากบริเวณด้านหลังที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT ย้ายมาบริเวณที่มีปัญหา การปลูกผมแบบนี้มีทั้ง FUE, DHI และ Long Hair DHI โดยจะแตกต่างกันที่ผลลัพธ์หลังการปลูกครับ

หากเกิดบริเวณตรงกลางสามารถรักษาได้ทั้งการปลูกผมย้ายรากและ การปลูกผมด้วยเซลล์รากผมเป็นการเหนี่ยวนำให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผม และทำให้ผมเดิมอวบอ้วนมากขึ้น โดยวิธีนี้เรียกว่า RECELL ซึ่งแบ่งออกเป็น RECELL Micro Hair Transplant และ RECELL Plus 3x ครับ

Facebook
Twitter
LinkedIn
Facebook
Twitter
LinkedIn
Share the Post:

Related Posts

Rejuvenation Therapy

การดูแลตัวเอง ก่อน-หลัง ปลูกผม

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะปลูกผม สิ่งแรกที่ต้องทราบเลยก็คือ ก่อนปลูกผมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การปลูกผมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด รวมไปถึงหลังปลูกผมเราต้องดูแลอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของคนไข้ให้มากที่สุด เ

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save