โควิด-19 สามารถทำให้ผมร่วงได้หรือไม่

Table of Contents

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor

ในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 และเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าโรคนี้มีปัญหาต่อเส้นผมโดยตรง แต่เราพบว่าในผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลาย ๆ คนมีปัญหาผมร่วงเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่หายป่วยไปแล้ว 3-4 เดือน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวไวรัสโดยตรง แต่เป็นผลพวงจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากเชื้อไวรัส เช่น ไข้ ที่เป็นอาการที่พบได้ปกติจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 โดยทางการแพทย์มีชื่อเรียกภาวะนี้ว่า Telogen Effluvium (TE)

ในสภาวะปกติ เส้นผมของคนเรามีวงจรชีวิตที่จะเดินหน้าเข้าสู่ระยะต่าง ๆ ตามลำดับ เริ่มต้นจากระยะที่มีการเจริญเติบโตและงอกยาว (anagen phase) โดยในระยะนี้เฉลี่ยอยู่นาน 5-7 ปี ต่อจากนั้นจะเข้าสู่ระยะก่อนการพักหรือหลุดร่วง (catagen phase) ที่จะอยู่นาน 1-2 สัปดาห์ และเข้าสู่ระยะพักและหลุดร่วง (telogen phase) ที่จะอยู่นานประมาณ 100 วัน จากนั้นก็จะเข้าสู่ระยะการเจริญเติบโตและงอกยาวใหม่อีกครั้ง วนเป็นวงจรเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

            ในภาวะ TE นี้ เส้นผมบนหนังศีรษะจะเข้าสู่ระยะพักหรือหลุดร่วงในจำนวนที่มากกว่าปกติพร้อม ๆ กัน โดยผมจะร่วงหลังจากที่ความเจ็บป่วยต้นเหตุได้ผ่านไปแล้วประมาณ 3-4 เดือน และสามารถมีอาการผมร่วงได้นานถึง 6 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่ผมที่ร่วงไปก็จะค่อย ๆ งอกกลับมาใหม่อีกครั้ง และกลับมามีผมเหมือนตอนก่อนเจ็บป่วยในระยะเวลา 6-9 เดือน

            แต่ในบางคนที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 หรือเป็นไข้ก็อาจมีปัญหาผมร่วงได้เช่นกัน เนื่องจากความเครียดหรือความกังวล (ยิ่งในปัญหาโรคระบาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) ก็สามารถทำให้เกิด TE ได้ มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า Psychogenic Effluvium พอมาเห็นผมร่วงเพิ่มมากขึ้นก็อาจยิ่งเครียดไปมากกว่าเดิมได้อีก ฉะนั้นอย่าลืมที่จะจัดการความเครียดให้น้อยลง เพราะเมื่อไม่เครียด ผมก็หยุดร่วง แต่สำหรับใครที่ประสบปัญฆาศีรษะล้าน-เถิก สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับการปลูกผมได้ที่นี่

ในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 และเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าโรคนี้มีปัญหาต่อเส้นผมโดยตรง แต่เราพบว่าในผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลาย ๆ คนมีปัญหาผมร่วงเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่หายป่วยไปแล้ว 3-4 เดือน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวไวรัสโดยตรง แต่เป็นผลพวงจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากเชื้อไวรัส เช่น ไข้ ที่เป็นอาการที่พบได้ปกติจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 โดยทางการแพทย์มีชื่อเรียกภาวะนี้ว่า Telogen Effluvium (TE)

ในสภาวะปกติ เส้นผมของคนเรามีวงจรชีวิตที่จะเดินหน้าเข้าสู่ระยะต่าง ๆ ตามลำดับ เริ่มต้นจากระยะที่มีการเจริญเติบโตและงอกยาว (anagen phase) โดยในระยะนี้เฉลี่ยอยู่นาน 5-7 ปี ต่อจากนั้นจะเข้าสู่ระยะก่อนการพักหรือหลุดร่วง (catagen phase) ที่จะอยู่นาน 1-2 สัปดาห์ และเข้าสู่ระยะพักและหลุดร่วง (telogen phase) ที่จะอยู่นานประมาณ 100 วัน จากนั้นก็จะเข้าสู่ระยะการเจริญเติบโตและงอกยาวใหม่อีกครั้ง วนเป็นวงจรเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

            ในภาวะ TE นี้ เส้นผมบนหนังศีรษะจะเข้าสู่ระยะพักหรือหลุดร่วงในจำนวนที่มากกว่าปกติพร้อม ๆ กัน โดยผมจะร่วงหลังจากที่ความเจ็บป่วยต้นเหตุได้ผ่านไปแล้วประมาณ 3-4 เดือน และสามารถมีอาการผมร่วงได้นานถึง 6 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่ผมที่ร่วงไปก็จะค่อย ๆ งอกกลับมาใหม่อีกครั้ง และกลับมามีผมเหมือนตอนก่อนเจ็บป่วยในระยะเวลา 6-9 เดือน

            แต่ในบางคนที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 หรือเป็นไข้ก็อาจมีปัญหาผมร่วงได้เช่นกัน เนื่องจากความเครียดหรือความกังวล (ยิ่งในปัญหาโรคระบาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) ก็สามารถทำให้เกิด TE ได้ มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า Psychogenic Effluvium พอมาเห็นผมร่วงเพิ่มมากขึ้นก็อาจยิ่งเครียดไปมากกว่าเดิมได้อีก ฉะนั้นอย่าลืมที่จะจัดการความเครียดให้น้อยลง เพราะเมื่อไม่เครียด ผมก็หยุดร่วง แต่สำหรับใครที่ประสบปัญฆาศีรษะล้าน-เถิก สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับการปลูกผมได้ที่นี่

Facebook
Twitter
LinkedIn
Facebook
Twitter
LinkedIn
Share the Post:

Related Posts

Rejuvenation Therapy

การดูแลตัวเอง ก่อน-หลัง ปลูกผม

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะปลูกผม สิ่งแรกที่ต้องทราบเลยก็คือ ก่อนปลูกผมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การปลูกผมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด รวมไปถึงหลังปลูกผมเราต้องดูแลอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของคนไข้ให้มากที่สุด เ

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save