ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการทานยา

Table of Contents

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor

เป็นเรื่องปกติมาก ๆ สำหรับบางคนที่ไม่ต้องการทานยา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ เรามาดูกันว่าเราสามารถจัดการกับเจ้าปัญหาผมบาง-ผมร่วงกันอย่างไรดี หรือต่อให้เราทำอะไรไม่ทันแล้ว จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร

เราผมร่วงได้อย่างไร?

ปัญหาผมร่วงมีมากมายหลายสาเหตุครับ แต่จะขอพูดถึงสาเหตุหลัก ๆ 3 ข้อกันครับ

การรับประทานอาหาร

เส้นผมก็ต้องการสารอาหารเช่นกัน ผมร่วงอาจมีสาเหตุมาจากน้ำหนักลดฉับพลัน ระดับธาตุเหล็กต่ำ หรือโภชนาการที่ขาดความสมดุล ข่าวดีก็คืออาการเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ไม่จำเป็นต้องกังวลเท่าไรนัก

ความเครียด

ความเครียดทำให้เส้นผมบางลงและเกิดรังแคได้เช่นกัน แต่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยอย่างที่คิด หากขณะหวีหรือแปรงผมพบว่ามีผมร่วงเป็นกระจุกหรือในปริมาณมาก อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอาการผมร่วงทั่วศีรษะ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจที่สูงมาก

พันธุกรรม

ศีรษะล้านทางพันธุกรรมหรือศีรษะล้านรูปแบบผู้ชาย เป็นสาเหตุของอาการผมร่วงในผู้ชายที่พบได้มากที่สุด สาเหตุหลัก ๆก็เกิดขึ้นจากฮอร์โมน DHT นั่นเองสังเกตได้ง่าย ๆ โดยผมบริเวณด้านหลังของเราจะไม่ร่วงเยอะเท่ากับที่อื่น เพราะไม่มีตัวรับฮอร์โมน DHT นั่นเองครับ

DHT คือฮอร์โมนตัวร้ายจริงหรือ?

Dihydrotestosterone (DHT) เป็นฮอร์โมนเพศชายชนิดหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่พัฒนาลักษณะทางเพศของ “ผู้ชาย” ไม่ว่าจะเป็นการมีขนบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย การมีเสียงที่ทุ้มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และที่สำคัญทำให้เกิดอาการศีรษะล้าน-เถิกขึ้นได้ครับ

ร่างกายของเราไม่ได้ผลิต DHT ขึ้นมาตรง ๆ แต่ว่าร่างกายของเราผลิตฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่าเทสโทสเตอโรน (Testosterone) จากอัณฑะในเพศชาย รังไข่ในเพศหญิง รวมไปถึงต่อมอื่น ๆ ในร่างกาย เมื่อฮอร์โมน Testosterone ไปเจอกับเอนไซม์ 5α-Reductase ก็จะทำให้เกิดเจ้าฮอร์โมน DHT ขึ้นมาที่อวัยวะปลายทางนั่นเองครับ

จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วเจ้าฮอร์โมน DHT ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย แต่มีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราไม่สามารถเลือกที่จะกำจัดฮอร์โมน DHT ได้ ดังนั้นการป้องกันผลกระทบจึงเป็นตัวเลือกถัดมาครับ

แน่นอนว่าการทานยาเป็นการป้องกันที่ตรงจุดที่สุด เพราะ Finasteride เข้าไปหยุดการสร้างฮอร์โมน DHT โดยการวิ่งเข้าไปจับกับ 5α-Reductase แต่หากไม่ต้องการทานยาก็ยังมีตัวเลือกที่หน้าสนใจอยู่อีก 2 วิธีครับ

  1. ฉีดบล็อคฮอร์โมน– นวัตกรรมใหม่ล่าสุด เป็นการบล็อคฮอร์โมนอย่างตรงจุด เนื่องจากเป็นการฉีดเข้าที่หนังศีรษะโดยตรง ดังนั้นจึงออกฤทธิ์บริเวณหนังศีรษะเท่านั้น สำหรับหลักการคือ ปกป้องรากผมจากอิทธิพลของฮอร์โมน DHT ไม่ให้รากผมฝ่อตัวลง
  2. การทานวิตามิน – เป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับเพศหญิงมาอย่างยาวนาน เนื่องจากยา Finasteride ไม่สามารถใช้ในเพศหญิงได้ เจ้าวิตามินที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับ Finasteride และ Minoxidil จึงเป็นทางเลือกยอดฮิตในการป้องการผลกระทบจากฮอร์โมน DHT นั่นเองครับ

แน่นอนครับว่าการป้องกันฮอร์โมน DHT เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ว่าไม่สามารถเรียกผมของเราที่หายไปแล้วให้กลับมาได้ครับ เนื่องจากหากเซลล์รากผมตายไปแล้ว ก็จำเป็นต้องทำการปลูกผมถาวรย้ายรากเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้นครับ สำหรับใครที่ต้องการปลูกผมสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เพจหรือไลน์ของหมอดนัยได้เลยครับ

เป็นเรื่องปกติมาก ๆ สำหรับบางคนที่ไม่ต้องการทานยา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ เรามาดูกันว่าเราสามารถจัดการกับเจ้าปัญหาผมบาง-ผมร่วงกันอย่างไรดี หรือต่อให้เราทำอะไรไม่ทันแล้ว จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร

เราผมร่วงได้อย่างไร?

ปัญหาผมร่วงมีมากมายหลายสาเหตุครับ แต่จะขอพูดถึงสาเหตุหลัก ๆ 3 ข้อกันครับ

การรับประทานอาหาร

เส้นผมก็ต้องการสารอาหารเช่นกัน ผมร่วงอาจมีสาเหตุมาจากน้ำหนักลดฉับพลัน ระดับธาตุเหล็กต่ำ หรือโภชนาการที่ขาดความสมดุล ข่าวดีก็คืออาการเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ไม่จำเป็นต้องกังวลเท่าไรนัก

ความเครียด

ความเครียดทำให้เส้นผมบางลงและเกิดรังแคได้เช่นกัน แต่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยอย่างที่คิด หากขณะหวีหรือแปรงผมพบว่ามีผมร่วงเป็นกระจุกหรือในปริมาณมาก อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอาการผมร่วงทั่วศีรษะ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจที่สูงมาก

พันธุกรรม

ศีรษะล้านทางพันธุกรรมหรือศีรษะล้านรูปแบบผู้ชาย เป็นสาเหตุของอาการผมร่วงในผู้ชายที่พบได้มากที่สุด สาเหตุหลัก ๆก็เกิดขึ้นจากฮอร์โมน DHT นั่นเองสังเกตได้ง่าย ๆ โดยผมบริเวณด้านหลังของเราจะไม่ร่วงเยอะเท่ากับที่อื่น เพราะไม่มีตัวรับฮอร์โมน DHT นั่นเองครับ

DHT คือฮอร์โมนตัวร้ายจริงหรือ?

Dihydrotestosterone (DHT) เป็นฮอร์โมนเพศชายชนิดหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่พัฒนาลักษณะทางเพศของ “ผู้ชาย” ไม่ว่าจะเป็นการมีขนบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย การมีเสียงที่ทุ้มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และที่สำคัญทำให้เกิดอาการศีรษะล้าน-เถิกขึ้นได้ครับ

ร่างกายของเราไม่ได้ผลิต DHT ขึ้นมาตรง ๆ แต่ว่าร่างกายของเราผลิตฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่าเทสโทสเตอโรน (Testosterone) จากอัณฑะในเพศชาย รังไข่ในเพศหญิง รวมไปถึงต่อมอื่น ๆ ในร่างกาย เมื่อฮอร์โมน Testosterone ไปเจอกับเอนไซม์ 5α-Reductase ก็จะทำให้เกิดเจ้าฮอร์โมน DHT ขึ้นมาที่อวัยวะปลายทางนั่นเองครับ

จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วเจ้าฮอร์โมน DHT ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย แต่มีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราไม่สามารถเลือกที่จะกำจัดฮอร์โมน DHT ได้ ดังนั้นการป้องกันผลกระทบจึงเป็นตัวเลือกถัดมาครับ

แน่นอนว่าการทานยาเป็นการป้องกันที่ตรงจุดที่สุด เพราะ Finasteride เข้าไปหยุดการสร้างฮอร์โมน DHT โดยการวิ่งเข้าไปจับกับ 5α-Reductase แต่หากไม่ต้องการทานยาก็ยังมีตัวเลือกที่หน้าสนใจอยู่อีก 2 วิธีครับ

  1. ฉีดบล็อคฮอร์โมน– นวัตกรรมใหม่ล่าสุด เป็นการบล็อคฮอร์โมนอย่างตรงจุด เนื่องจากเป็นการฉีดเข้าที่หนังศีรษะโดยตรง ดังนั้นจึงออกฤทธิ์บริเวณหนังศีรษะเท่านั้น สำหรับหลักการคือ ปกป้องรากผมจากอิทธิพลของฮอร์โมน DHT ไม่ให้รากผมฝ่อตัวลง
  2. การทานวิตามิน – เป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับเพศหญิงมาอย่างยาวนาน เนื่องจากยา Finasteride ไม่สามารถใช้ในเพศหญิงได้ เจ้าวิตามินที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับ Finasteride และ Minoxidil จึงเป็นทางเลือกยอดฮิตในการป้องการผลกระทบจากฮอร์โมน DHT นั่นเองครับ

แน่นอนครับว่าการป้องกันฮอร์โมน DHT เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ว่าไม่สามารถเรียกผมของเราที่หายไปแล้วให้กลับมาได้ครับ เนื่องจากหากเซลล์รากผมตายไปแล้ว ก็จำเป็นต้องทำการปลูกผมถาวรย้ายรากเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้นครับ สำหรับใครที่ต้องการปลูกผมสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เพจหรือไลน์ของหมอดนัยได้เลยครับ

Facebook
Twitter
LinkedIn
Facebook
Twitter
LinkedIn
Share the Post:

Related Posts

Rejuvenation Therapy

การดูแลตัวเอง ก่อน-หลัง ปลูกผม

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะปลูกผม สิ่งแรกที่ต้องทราบเลยก็คือ ก่อนปลูกผมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การปลูกผมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด รวมไปถึงหลังปลูกผมเราต้องดูแลอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของคนไข้ให้มากที่สุด เ

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save