DHI คือเทคนิคสากลที่ทั่วโลกยอมรับ!

Table of Contents

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.Lorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolor

ในปี 2021 นี้ หรือแม้กระทั่งช่วงปลายปีที่ผ่านมา คำถามที่หมอถูกถามทุก ๆ วันจากทุกช่องทางก็คือ DHI ต่างกับ FUE  ยังไง  หรือ DHI เป็นชื่อทางการตลาดจริงหรือ ในวันนี้หมอจะมาอธิบายให้ทุก ๆ คนเข้าใจกันอีกครั้งครับ ก่อนอื่นเรามาเริ่มพูดถึงการปลูกผมย้ายรากกันก่อนครับ

เนื่องจากว่าปัจจุบันในโลกเราไม่มีวิธีการใด หรือวัสดุไหนที่สามารถมาทดแทนผมจริง ๆ ของเราได้อย่างถาวรครับ ดังนั้นการปลูกผมย้ายรากก็คือ “การจัดสรรเส้นผมบนศีรษะของเราใหม่” โดยมีการนำผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ย้ายมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นล้านด้านบน เถิกด้านหน้า หรือแม้กระทั่งคิ้ว เครา หนวด จอน

เทคนิคปลูกผมแรกที่ได้รับการยอมรับ

เมื่อช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาได้มีการคิดค้นวิธีการนำผมออกจากบริเวณดังกล่าวโดยการ “กรีดหนังศีรษะทั้งแผ่น” ก่อนที่จะนำหนังศีรษะแผ่นหนังไปตัดเพื่อแยกกราฟต์ผมออกจากหนังศีรษะ  จากนั้นก็ใช้เข็มเจาะหนังศีรษะบริเวณด้านหน้าให้เป็นรูก่อนจะหยอดกราฟต์ผมที่เราได้เตรียมไว้ก่อนหน้า วิธีการนี้ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า FUT หรือ Follicular Unit Transplantation

ผลลัพธ์ก็ถือว่าต้องขึ้นกับฝีมือของแพทย์มากจริง ๆ ครับ เพราะเกิดแผลจำนวนมากโดยเฉพาะแผลกรีดหนังศีรษะด้านหลังที่ทำให้ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน ไม่พอยังทำให้เกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ ผมที่ปลูกไปก็ถือว่าไม่แย่ครับมีความหนาแน่นขึ้นตามผมที่เราปลูกลงไป แต่ทิศทางของผมขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ครับ ทำให้การปลูกผมเป็นที่นิยมในวงแคบเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขปัญหา

fut vs fue

จากนั้นก็เกิดการพัฒนาต่อยอดเพื่อแก้ปัญหาแผลบริเวณด้านหลังที่มีขนาดใหญ่โดยการคิดค้นวิธีการใหม่มาดึงผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะแทน โดยใช้หัวเจาะชนิดพิเศษในการดึงผมของเราออกมาทีละกอ จากนั้นก็นำไปปักในบริเวณที่มีปัญหาเช่นเดียวกับการปลูกผมเทคนิค FUT แล้วก็ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่า FUE หรือ Follicular Unit Extraction แล้วยังมีการเปลี่ยนชื่อในภายหลังเป็น Follicular Unit Excision แน่นอนครับว่าปัญหาแผลเป็นก็ได้รับการแก้ไข

พัฒนาไปสู่เทคนิคที่ดีกว่า

ผ่านมาหลายปีที่ FUE ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่นิยมที่สุด จน FUT กลายเป็นตกกระแสไป แต่ผลลัพธ์ของ FUE และ FUT ก็ยังไม่น่าเป็นที่พอใจมากพอ ทั้งในเรื่องของความแน่น และแนวผม จนทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ปัญหาเกิดจากตอนที่ปลูกผมลงไปด้วยการใช้การเจาะและการหยอดกราฟต์ผมไม่สามารถควบคุมความลึกและทิศทางได้ดีเพียงพอนั่นเอง จึงได้มีพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกผมที่มีชื่อว่า Implanter ซึ่งเจ้า Implanter นี้สามารถปลูกได้ชิดกว่า FUE ดั้งเดิมเพราะว่าขนาดเข็มของ Implanter มีขนาดเล็กกกว่า เข็มธรรมดาที่ใช้ในการปลูกนั่นเอง นอกจากนี้ Implanter ยังสามารถความคุมทิศทางและความลึกของการปลูกกราฟต์ผมได้อีกด้วยนั่นเอง ทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายของการปลูกผมด้วยวิธีการนี้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด จึงได้มีการตั้งชื่อใหม่เป็น DHI หรือ Direct Hair Implantation แต่ก็ยังมีบางคลินิกปลูกผม ที่เรียกเทคนิคนี้ว่า FUE อยู่เหมือนเดิมเพียงเติมคำว่า “ปลูกด้วย Implanter” ก็ตามแต่จะสะดวกครับ

ในปี 2021 นี้ หรือแม้กระทั่งช่วงปลายปีที่ผ่านมา คำถามที่หมอถูกถามทุก ๆ วันจากทุกช่องทางก็คือ DHI ต่างกับ FUE  ยังไง  หรือ DHI เป็นชื่อทางการตลาดจริงหรือ ในวันนี้หมอจะมาอธิบายให้ทุก ๆ คนเข้าใจกันอีกครั้งครับ ก่อนอื่นเรามาเริ่มพูดถึงการปลูกผมย้ายรากกันก่อนครับ

เนื่องจากว่าปัจจุบันในโลกเราไม่มีวิธีการใด หรือวัสดุไหนที่สามารถมาทดแทนผมจริง ๆ ของเราได้อย่างถาวรครับ ดังนั้นการปลูกผมย้ายรากก็คือ “การจัดสรรเส้นผมบนศีรษะของเราใหม่” โดยมีการนำผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ย้ายมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นล้านด้านบน เถิกด้านหน้า หรือแม้กระทั่งคิ้ว เครา หนวด จอน

เทคนิคปลูกผมแรกที่ได้รับการยอมรับ

เมื่อช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาได้มีการคิดค้นวิธีการนำผมออกจากบริเวณดังกล่าวโดยการ “กรีดหนังศีรษะทั้งแผ่น” ก่อนที่จะนำหนังศีรษะแผ่นหนังไปตัดเพื่อแยกกราฟต์ผมออกจากหนังศีรษะ  จากนั้นก็ใช้เข็มเจาะหนังศีรษะบริเวณด้านหน้าให้เป็นรูก่อนจะหยอดกราฟต์ผมที่เราได้เตรียมไว้ก่อนหน้า วิธีการนี้ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า FUT หรือ Follicular Unit Transplantation

ผลลัพธ์ก็ถือว่าต้องขึ้นกับฝีมือของแพทย์มากจริง ๆ ครับ เพราะเกิดแผลจำนวนมากโดยเฉพาะแผลกรีดหนังศีรษะด้านหลังที่ทำให้ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน ไม่พอยังทำให้เกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ ผมที่ปลูกไปก็ถือว่าไม่แย่ครับมีความหนาแน่นขึ้นตามผมที่เราปลูกลงไป แต่ทิศทางของผมขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ครับ ทำให้การปลูกผมเป็นที่นิยมในวงแคบเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขปัญหา

fut vs fue

จากนั้นก็เกิดการพัฒนาต่อยอดเพื่อแก้ปัญหาแผลบริเวณด้านหลังที่มีขนาดใหญ่โดยการคิดค้นวิธีการใหม่มาดึงผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะแทน โดยใช้หัวเจาะชนิดพิเศษในการดึงผมของเราออกมาทีละกอ จากนั้นก็นำไปปักในบริเวณที่มีปัญหาเช่นเดียวกับการปลูกผมเทคนิค FUT แล้วก็ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่า FUE หรือ Follicular Unit Extraction แล้วยังมีการเปลี่ยนชื่อในภายหลังเป็น Follicular Unit Excision แน่นอนครับว่าปัญหาแผลเป็นก็ได้รับการแก้ไข

พัฒนาไปสู่เทคนิคที่ดีกว่า

ผ่านมาหลายปีที่ FUE ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่นิยมที่สุด จน FUT กลายเป็นตกกระแสไป แต่ผลลัพธ์ของ FUE และ FUT ก็ยังไม่น่าเป็นที่พอใจมากพอ ทั้งในเรื่องของความแน่น และแนวผม จนทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ปัญหาเกิดจากตอนที่ปลูกผมลงไปด้วยการใช้การเจาะและการหยอดกราฟต์ผมไม่สามารถควบคุมความลึกและทิศทางได้ดีเพียงพอนั่นเอง จึงได้มีพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกผมที่มีชื่อว่า Implanter ซึ่งเจ้า Implanter นี้สามารถปลูกได้ชิดกว่า FUE ดั้งเดิมเพราะว่าขนาดเข็มของ Implanter มีขนาดเล็กกกว่า เข็มธรรมดาที่ใช้ในการปลูกนั่นเอง นอกจากนี้ Implanter ยังสามารถความคุมทิศทางและความลึกของการปลูกกราฟต์ผมได้อีกด้วยนั่นเอง ทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายของการปลูกผมด้วยวิธีการนี้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด จึงได้มีการตั้งชื่อใหม่เป็น DHI หรือ Direct Hair Implantation แต่ก็ยังมีบางคลินิกปลูกผม ที่เรียกเทคนิคนี้ว่า FUE อยู่เหมือนเดิมเพียงเติมคำว่า “ปลูกด้วย Implanter” ก็ตามแต่จะสะดวกครับ

Facebook
Twitter
LinkedIn
Facebook
Twitter
LinkedIn
Share the Post:

Related Posts

Rejuvenation Therapy

การดูแลตัวเอง ก่อน-หลัง ปลูกผม

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะปลูกผม สิ่งแรกที่ต้องทราบเลยก็คือ ก่อนปลูกผมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การปลูกผมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด รวมไปถึงหลังปลูกผมเราต้องดูแลอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของคนไข้ให้มากที่สุด เ

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save